• auth
  • cli
  • ai

CLI Auth คืออะไรและวิธีการที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน

การยืนยันตัวตน CLI กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญในเวิร์กโฟลว์ของนักพัฒนาในยุคใหม่ Logto รองรับวิธีการยืนยันตัวตนผ่าน CLI ทุกรูปแบบหลัก

Guamian
Guamian
Product & Design

หยุดเสียเวลาเป็นสัปดาห์กับการยืนยันตัวตนผู้ใช้
เปิดตัวแอปที่ปลอดภัยเร็วขึ้นด้วย Logto ผสานการยืนยันตัวตนผู้ใช้ภายในไม่กี่นาทีและมุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์หลักของคุณ
เริ่มต้นใช้งาน
Product screenshot

เวิร์กโฟลว์ของนักพัฒนาในยุคใหม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือบรรทัดคำสั่งอย่างหนัก ตั้งแต่การดีพลอยบริการคลาวด์ การรันเอเจนต์ AI หรือการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน CLI ได้กลายเป็นหนึ่งในอินเทอร์เฟซที่ทรงพลังที่สุดสำหรับวิศวกร แต่เบื้องหลังทุกคำสั่ง deploy, auth หรือ run จะมีข้อกำหนดที่สำคัญ:

CLI ต้องรู้ว่าคุณเป็นใคร

นี่แหละคือจุดที่ CLI auth เข้ามามีบทบาท

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกว่า CLI auth คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ และวิธีการยืนยันตัวตนที่ใช้กันทั่วไปในหมู่นักพัฒนาในวันนี้

CLI Auth คืออะไร?

CLI auth (การยืนยันตัวตนผ่านบรรทัดคำสั่ง) หมายถึงกลไกที่ CLI ใช้เพื่อตรวจสอบตัวตนของบุคคลหรือบริการที่กำลังรันคำสั่ง

มันทำให้ CLI สามารถ:

  • ยืนยันตัวตนผู้ใช้
  • ขอรับโทเคนแบบอายุสั้นและแบบระยะยาว
  • เข้าถึง API Backend อย่างปลอดภัย
  • รักษาสถานะล็อกอินเอาไว้

ถ้าเบราว์เซอร์ใช้คุกกี้และเซสชัน CLI จะใช้ โทเคนที่เก็บไว้ในเครื่อง ร่วมกับ OAuth หรือมาตรฐาน auth แบบอื่น ๆ

สรุปคือ CLI auth ให้ระบบล็อกอินกับเทอร์มินัล เพื่อให้สามารถกระทำแทนผู้ใช้อย่างปลอดภัย

ทำไมต้องมี CLI auth

CLI auth ช่วยแก้ไขปัญหาจริงหลายประการ:

  1. อัตลักษณ์ — Backend API ต้องรู้ว่าใครเป็นคนออกคำสั่ง
  2. ความปลอดภัย — นักพัฒนาไม่ควรพิมพ์ secret แบบ raw ลงเทอร์มินัลหรือสคริปต์
  3. วงจรชีวิตโทเคน — CLI ต้องการ access token อายุสั้นพร้อมฟีเจอร์ refresh อัตโนมัติ
  4. ความสะดวกของผู้ใช้ — เมื่อล็อกอินแล้ว นักพัฒนาไม่ควรต้องล็อกอินซ้ำบ่อย ๆ
  5. รองรับการทำงานอัตโนมัติ — pipeline CI/CD ต้องใช้โทเคนที่เหมาะกับเครื่อง

CLIs มีความสามารถมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI จึงต้องมีการยืนยันตัวตนที่แข็งแกร่งและปลอดภัยยิ่งขึ้น

วิธีการยืนยันตัวตน CLI ที่ใช้ทั่วไป

แต่ละแพลตฟอร์มใช้วิธี CLI auth แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการเรื่องความปลอดภัย UX และการออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน ด้านล่างคือวิธีที่พบได้บ่อยในเครื่องมือของนักพัฒนาสมัยใหม่

1. OAuth 2.0 Device Code Flow (วิธีที่ใช้มากที่สุด)

นี่คือมาตรฐานของวงการที่ใช้โดย:

  • GitHub CLI
  • AWS SSO
  • Azure CLI
  • Vercel CLI
  • OpenAI CLI
  • หลาย runtime ที่เน้น AI

ทำงานอย่างไร

  1. CLI เรียก identity provider เพื่อขอ device code
  2. ผู้ใช้ถูกขอให้เข้า URL และกรอกรหัสยืนยันสั้น ๆ
  3. เบราว์เซอร์จัดการล็อกอิน (พาสเวิร์ด, passkey, SSO)
  4. หลังอนุมัติ CLI จะได้รับโทเคน (access + refresh)
  5. CLI เก็บโทเคนไว้ในเครื่องและใช้สำหรับคำสั่งในอนาคต

ทำไมถึงได้รับความนิยม

  • ใช้งานได้ทุกที่ (local, SSH, container)
  • มีความปลอดภัยสูง
  • ไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่านในเทอร์มินัล
  • รองรับ MFA, passkey, และ SSO สำหรับองค์กร

Device Code Flow คือ ดีฟอลต์ สำหรับเครื่องมือของนักพัฒนายุคใหม่ เพราะสมดุลความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และประสบการณ์ผู้ใช้ได้ดี

2. Localhost Redirect OAuth Flow

ใช้กับเครื่องมือที่ต้องการประสบการณ์ล็อกอินที่ราบรื่น

ทำงานอย่างไร

  1. CLI สตาร์ทเซิร์ฟเวอร์เล็ก ๆ ในเครื่อง บนพอร์ตสุ่ม
  2. เบราว์เซอร์จะเปิดอัตโนมัติ
  3. หลังล็อกอิน identity provider จะ redirect กลับไปที่ http://localhost:xxxx/callback
  4. CLI รับโทเคน OAuth และปิดเซิร์ฟเวอร์

ข้อดี

  • ประสบการณ์ผู้ใช้ยอดเยี่ยม
  • ไม่ต้อง copy-paste ขั้นตอน

ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะสำหรับเชลล์/เซิร์ฟเวอร์ระยะไกลหรือคลาวด์
  • ต้องสามารถผูกพอร์ต localhost ได้

พบบ่อยใน CLI ที่เน้น GUI หรือ dev tools ที่ต้องการประสบการณ์ "ล็อกอินคลิกเดียว"

3. API keys / Personal access tokens (แบบเก่าแต่ยังใช้กันมาก)

CLI บางตัวให้นักพัฒนา paste API key หรือ personal access token ได้

ตัวอย่าง

ข้อดี

  • ง่าย
  • นำไปใช้งานอัตโนมัติได้สะดวก

ข้อเสีย

  • ความปลอดภัยต่ำ
  • ไม่รองรับ MFA
  • เปลี่ยน/หมุนเวียนยาก
  • โทเคนมักจะได้สิทธิ์กว้าง

แพลตฟอร์มสมัยใหม่ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างยกเลิกหรือจำกัดให้ใช้เฉพาะ กับเครื่องเท่านั้น

4. Client Credentials (OAuth2 Client Credentials Flow)

นี่คือวิธี มาตรฐาน สำหรับบริการหรือ job CI/CD ที่ต้องการยืนยันตัวตนโดยไม่ต้องมีผู้ใช้โต้ตอบ

ผู้ให้บริการ auth จะออก:

  • client_id
  • client_secret

บริการจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปขอ access token:

คุณสมบัติ

  • ไม่มีผู้ใช้เกี่ยวข้อง
  • ไม่ต้องใช้เบราว์เซอร์
  • ใช้ access token อายุสั้น
  • เหมาะกับ backend-to-backend หรือระบบ CI
  • ใช้ร่วมกับ OAuth2 และ RBAC ได้สะดวก

นี่คือวิธี auth อัตโนมัติที่ได้รับการสนับสนุนมากที่สุดในทุกผู้ให้บริการ identity

5. Username + Password input (พบน้อยมากในปัจจุบัน)

พิมพ์ข้อมูลล็อกอินโดยตรงใน CLI:

วิธีนี้ล้าสมัยและไม่แนะนำเพราะ:

  • พิมพ์รหัสผ่านเสี่ยงโดนขโมย/รั่วไหลได้
  • ไม่รองรับ MFA
  • ใช้กับ SSO ไม่ได้
  • log audit ไม่ดี

เครื่องมือสมัยใหม่แทบไม่ใช้วิธีนี้ นอกจากในออฟไลน์หรือระบบองค์กรเก่า

CLI เก็บโทเคนไว้อย่างไร

ส่วนใหญ่ CLI จะบันทึกโทเคนไว้ที่:

ที่แนะนำ

  • macOS Keychain
  • Windows Credential Manager
  • Linux Keyring

สำรอง

  • ไฟล์ในเครื่องแบบเข้ารหัสไว้ใต้ ~/.config/toolname
  • config ไฟล์แบบ JSON หรือ TOML

โทเคนควรใช้หลักการ:

  • อายุสั้น
  • รีเฟรชได้
  • เพิกถอนสิทธิ์ได้
  • จำกัดขอบเขตตามบทบาทและ permission

การวางระบบวงจรชีวิตโทเคนที่ดีคือหัวใจของความปลอดภัย CLI auth

แล้วควรใช้วิธีไหน?

ถ้าคุณกำลังออกแบบ CLI:

กรณีใช้งานวิธียืนยันตัวตนที่ดีที่สุด
คนล็อกอินในเครื่องDevice Code Flow
คนที่ต้องการ GUILocalhost OAuth redirect
CI/CDClient credential flow
โปรโตไทป์ไว ๆAPI keys
ต้องใช้ SSO องค์กรDevice Code Flow

Device Code Flow คือมาตรฐานสมัยใหม่ เพราะใช้งานได้ทุกที่และสืบทอดความปลอดภัยจากเบราว์เซอร์

สรุป

CLI auth เป็นรากฐานเรื่องอัตลักษณ์ของเครื่องมือ command-line ยุคใหม่

ช่วยให้นักพัฒนายืนยันตัวตนอย่างปลอดภัย รับโทเคน และทำงานกับคลาวด์หรือ runtime AI โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญ

วิธีการ CLI auth ที่ใช้บ่อย ได้แก่:

  1. OAuth Device Code Flow
  2. Localhost OAuth Redirect Flow
  3. API keys / Personal Access Tokens
  4. Client credential flow สำหรับ CI/CD
  5. Username/password แบบเก่า (พบได้น้อยมากสมัยนี้)

เมื่อเครื่องมือของนักพัฒนาถูกขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้น และทุกอย่างขยับมาอยู่ในเทอร์มินัล CLI auth จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านอัตลักษณ์ยุคใหม่ Logto รองรับรูปแบบ CLI auth หลักทุกรูปแบบ โดย Device Code Flow กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

👉 เริ่มใช้งาน Logto