การเลือกวิธี SSO ของคุณ: SAML เทียบกับ OpenID Connect
การลงชื่อเข้าใช้ครั้งเดียว (SSO) เป็นวิธีที่ดีในการทำให้การยืนยันตัวตนและการให้สิทธิ์ผู้ใช้เป็นเรื่องง่าย แต่ควรเลือกวิธี SSO แบบใด? ในโพสต์นี้ เราจะให้ภาพรวมสั้น ๆ เกี่ยวกับสองวิธี SSO ที่ได้รับความนิยม: SAML และ OpenID Connect
บทนำ
ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์ในปัจจุบัน การลงชื่อเข้าใช้ครั้งเดียว (SSO) เป็นวิธีที่ดีในการทำให้การยืนยันตัวตนและการให้สิทธิ์ผู้ใช้เป็นเรื่องง่าย แทนที่จะต้องให้ผู้ใช้จำชื่อล็อกอินและรหัสผ่านหลายคู่สำหรับหลายแอปพลิเคชัน SSO ทำให้พวกเขาสามารถลงชื่อเข้าใช้ครั้งเดียวและเข้าถึงแอปพลิเคชันหลาย ๆ ตัวได้อย่างไร้อุปสรรค
ผู้ให้บริการระบุตัวตน (IdPs) จำนวนมาก เช่น Microsoft Entra มีวิธีการหลักสองวิธีสำหรับ SSO: Security Assertion Markup Language (SAML) และ OpenID Connect (OIDC) แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นโปรโตคอลที่ปลอดภัยและได้รับการยอมรับอย่างดีแล้ว การเลือกวิธีที่เหมาะสมสำหรับองค์กรของคุณขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย มาลงลึกถึงความแข็งแกร่งและจุดอ่อนของพวกมันเพื่อช่วยคุณเลือกแชมป์เปี้ยน SSO ของคุณ
OpenID Connect (OIDC): การเลือกที่น้ำหนักเบาสำหรับแอปพลิเคชันสมัยใหม่
OIDC เป็นโปรโตคอลที่เรียบง่ายและน้ำหนักเบาที่สร้างขึ้นบน OAuth 2.0 มันมีความโดดเด่นในการให้กระบวนการติดตั้งที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับแอปพลิเคชันสมัยใหม่
ข้อดี
- ความเรียบง่าย: OIDC ให้กระบวนการติดตั้งที่ง่ายกว่ามากเมื่อเทียบกับ SAML สิ่งนี้แปลให้เกิดการปรับใช้ที่รวดเร็วขึ้นและการบำรุงรักษาต่อเนื่องที่ง่ายขึ้น มันถู กออกแบบบน OAuth 2.0 ซึ่งถูกใช้กันอย่างกว้างขวางสำหรับวัตถุประสงค์ในการให้สิทธิ์อยู่แล้ว
- การออกแบบสมัยใหม่: ถูกสร้างขึ้นเพื่อสภาพแวดล้อมเว็บสมัยใหม่ มันรวมเข้ากับแอปพลิเคชันและกรอบงานสมัยใหม่ได้ดี OIDC เป็น RESTful และใช้ JSON ทำให้มันทำงานง่ายขึ้นในสภาพแวดล้อมการพัฒนาสมัยใหม่และให้ประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น
- การปรับขยาย: OIDC ถูกออกแบบมาให้มีการปรับขยาย ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความต้องการซับซ้อน
- ประสิทธิภาพ: OIDC ใช้ JSON Web Tokens (JWTs) สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล โทเค็นที่มีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพเหล่านี้เมื่อเปรียบเทียบกับข้อความ XML ที่หนากว่าที่ใช้โดย SAML สิ่งนี้แปลให้เกิดเวลาการยืนยันตัวตนที่เร็วขึ้น